
หากใครได้ยินภาษาแสลงที่ใช้ในทางการเมือง ซึ่งจะมีคนที่เห็นต่างทางการเมืองจะเรียกว่าม็อบมุ้งมิ้ง ส่วนคนที่ไม่ยอมปรับตัว กลัวในแนวคิดหรือต่อต้านแนวคิดม็อบมุ้งมิ้ง จะเรียกกันว่า สลิ่ม หรือเรียกมินเนี่ยน จะว่าไปเรื่องการเมืองเป็นเรื่องละเอียด แต่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนมองข้าม ซึ่งควรมองว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องของชีวิตทุกคนที่อยู่ในประเทศ ถ้าพูดในทางจิตวิทยา คนที่เป็นสลิ่มไม่ใช่แค่คนที่ไม่รับฟังใคร ยังติดอัตตาความเป็นสิ่งเหล่านี้อยู่ แม้กระทั่งคนที่เติบโตแล้วได้รับการหล่อหลอมให้เป็นคนลักษณะแบบนั้น แต่ในขณะเดียวกันเขาก็มีความกลัวและมีปมทางจิตวิทยาซ่อนอยู่

จิตวิทยาความกลัวกับ สลิ่ม ในการอยู่กับสมคมรอบนอก
การวิเคราะห์กับบุคคลที่ถูกเรียกกันว่าเป็นสลิ่ม ส่วนมากมักจะไม่ยอมรับว่าตนเองมีความกลัวซ่อนอยู่ แต่ถ้าให้มองดีๆ บนความกลัวก็สามารถทำให้สังคมดูผิดเพี้ยนได้มากเช่นกัน จึงจะแบ่งเรื่องราวทางจิตวิทยาของสลิ่มได้ดังนี้
- โรควิตกกังวล (Anxiety Disorder) จากสังเกตคนที่มีแนวคิดทางการเมืองในทางสลิ่มจะมีความวิตกกังวลมากเนื่องจากตื่นตระหนกจากแหล่งข่าวว่าปฏิรูปเท่ากับล้มล้างบ้าง กลัวว่าคนที่ไปม็อบจะเป็นพวกชังชาติบ้าง เอาค่านิยมชาติอื่นมาขายชาติบ้าง ซึ่งคนกลุ่มนี้จะกังวลจนกระทั่งเริ่มกลัวต่อการเปลี่ยนแปลง กลัวว่าถ้าหากพลิกผันไปเช่นนั้นจริงๆ ตนจะรู้สึกอยู่ไม่ได้ อยู่ลำบาก หรือกลัวจะโดนคนซ้ำเติม มักจะเกิดในกลุ่มที่อายุมากๆ ที่เติบโตในช่วง Baby Boomer และหลังจากรุ่นนี้อีกด้วย

- โรคแพนิค (Panic Disorder) โรคนี้จะเห็นได้ง่ายในกลุ่มที่มีความเชื่อทางการเมืองในทางสลิ่มตั้งแต่เดิม รวมทั้งคนที่การศึกษาน้อย และกลุ่มคนที่ได้รับข้อมูลข่าวสารมาแบบผิดๆ ทั้งในสื่อโดยตรงและสื่อทางโซเชียล คนกลุ่มนี้จะมีอาการกลัวจนลนลาน หรือกลัวว่าถ้าประเทศเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมตัวเองจะสิ้นใจตาย กลัวลนลานจะเป็นจะตาย ทั้งที่เป็นความกลัวทางจิตเท่านั้น

- โรคต่อต้านสังคม ( Antisocial Personality Disorder) หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นโรค ASPD ซึ่งถ้าใครเป็นสลิ่มในกลุ่มนี้ถือว่าน่ากลัวมากๆ เพราะจัดเป็นบุคลิกต่อต้านสังคม ซึ่งจะแสดงออกในลักษณะอันธพาล จะทำทุกอย่างที่ตนต้องการ ทำตามในสิ่งที่ตนเองเชื่อโดยไม่สนว่าใครจะเดือดร้อนเพราะตนเองหรือไม่ จะหลอกลวงเก่ง หุนหันพลันแล่นง่าย ไม่มีความละอายแก่ใจหรือเกรงกลัวต่อในสิ่งที่ทำลงไป แต่ในขณะเดียวกันมีโอกาสทำผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรมมากกว่ากลุ่มอื่น
การที่เป็นสลิ่มหรือไม่ นอกจากมองในทางจิตวิทยานั้น สิ่งที่อยากให้มองเพิ่มเติมนั่นก็คือ เขาอาจกลัวว่าถ้าพูดไปแล้วเขาจะเดือดร้อนหรือเปล่า หรือถ้าไม่เลือกข้าง หรือไม่มองข้ามสิ่งนั้นเลยจะมีผลต่ออาชีพการงานไหม จึงต้องมองกันให้ยาวๆ เพราะการที่จะเป็นสลิ่มหรือไม่ต้องมองโลกให้หลายมิติเข้าด้วยเช่นกัน
กดติดตามเว็บไซต์ เครื่องสำอางสมุนไพรธรรมชาติ และการดูแลรักษาสุขภาพ สร้างสุขภาพจิตที่ดีได้ง่าย ๆ หากไม่กลัว การพบนักจิตบำบัด รับฟังและเสนอแนวทางที่ดีให้กับทุกคน
นอกจากจะมีการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงในยุคโควิค ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถทำให้เราผ่อนคลายได้แบบสบาย ๆ ด้วย UFA9889 ในยามว่าง