Visceral Fat ไขมันในช่องท้อง สำคัญไฉน? ทำไมร่างกายต้องระวัง ในการใช้ชีวิตและพฤติกรรมของตนเอง

Visceral Fat

                การใช้ชีวิตในแต่ละวันก็เป็นการเร่งการเกิด  Visceral  Fat  มากขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว  ทั้งที่เป็นสิ่งที่ควรระวังอย่างมากในการรักษาสุขภาพของเราว่าทำไมเราควรให้ความสำคัญกับไขมันชนิดนี้  แล้วจะส่งผลต่อร่างกายของเราอย่างไรในอนาคต  มักจะมีการพูดถึงของไขมันส่วนนี้จากนักโภชนาการ  เทรนเนอร์  รวมทั้งผู้ที่ทำงานด้านสุขภาพและการออกกำลังกายในชีวิตประจำวันว่าทำไมต้องระวังอย่างมากในการใช้ชีวิตและพฤติกรรมของตนเอง

หากจะพูดถึง  Visceral  Fat  ก็คงแปลตามตัวว่า “ไขมันในช่องท้อง”  เอาง่ายๆ  ถ้าหากเห็นใครที่มีปัญหาภาวะลงพุง  เป็นผลพวงมาจากไขมันส่วนนี้เยอะเกินไป  จะบอกว่าเป็นไขมันที่ก่อให้เกิดคอเลสเตอรอล  (Cholesterol) ไตรกลีเซอไรด์  (Triglyceride) ไขมันเลว (LDL)  ในเลือดสูง  และยังเป็นปัจจัยหลักในการเกิดความเสี่ยงต่อโรค  NCDs  หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อซึ่งเกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพซึ่งเป็นสิ่งที่ควรระวังอย่างมาก

Visceral Fat

ระดับของ Visceral Fat ระดับไหนที่ควรระวังเป็นเศษ และดูแลรักษาได้อย่างไร

การที่เราจะเสี่ยงเรื่องลงพุง  เราสามารถวิเคราะห์ค่าที่ควรระวังความเสี่ยงได้จากเครื่องชั่งน้ำหนักระบบไฟฟ้าที่มี  Body  Composition โดยเฉพาะจะระบุค่าไขมันในช่องท้องในร่างกายได้ด้วยตนเอง  ในบทความนี้จะเล่าระดับค่าไขมันในช่องท้องที่ควรรักษาในระดับที่เหมาะสมต่อสุขภาพ  และระดับไหนควรระวังความเสี่ยงอย่างมาก  จะขอแบ่งได้ดังนี้

ระดับของ Visceral Fat ร
  • ระดับ 1-2เป็นระดับที่สื่อเรื่องความสมบูรณ์ของร่างกาย  ความมีสุขภาพดี  ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บและความเสี่ยงจากไขมันในช่องท้องสูง  จะไม่ต้องระวังความเสี่ยงอะไรมาก  เนื่องจากเผาผลาญดี  นอกจากนี้คนที่มีระดับนี้ได้ส่วนหนึ่งมักจะเป็นกลุ่มที่ออกกำลังกายเป็นประจำ  กลุ่มที่ทานอาหารไขมันต่ำ  รวมถึงกลุ่มนักกีฬาที่มีค่าไขมันในช่องท้องน้อยกว่าคนปกติ
  • ระดับ3-5เป็นระดับปกติ  ซึ่งคนทั่วไปควรจะรักษาค่าไขมันในช่องท้องอยู่ในระดับนี้  เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคไขมันในช่องท้องสูง  และความเสี่ยงของหลอดเลือด  ในกลุ่มนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยอยู่  แต่ไม่ใช่ว่าจะตามสบายตัวเองจนเกินไปจนลืมระวัง
Visceral Fat ไขมันในช่องท้อง
  • ระดับ6-10เป็นระดับที่เริ่มมีไขมันนิดๆ  เป็นจุดเริ่มต้นของการลงพุง  จะสังเกตได้จากกลุ่มคนที่มีSkinny  Fat  หรือคนที่ผอมแต่มีพุง  คนในกลุ่มนี้จะต้องเพิ่มความระวังในการรับประทานอาหาร  มีเวลาการออกกำลังกาย  หรือการทำกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันไขมันสะสมในร่างกาย
  • ระดับ11-15  เป็นระดับอันตรายมาก  ซึ่งเกิดจากร่างกายเข้าสู่ภาวะมีพุงในระยะที่สอง  ซึ่งไม่ควรให้ร่างกายเข้าสู่ในระดับนี้เลย  มีโอกาสเสี่ยงโรคที่เกิดจากไขมันในช่องท้องสูง  ต้องระวังให้มาก
  • ระดับ16-30  เป็นระดับถึงขั้นเสียชีวิตได้  ควรไปพบแพทย์เพื่อการรักษา

สามารถกดติดตาม ธุรกิจความสวยความงาม และการดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันโรค 4 เคล็ดลับกินแป้ง อย่างไรไม่ให้อ้วน สำหรับคนกำลังต้องการลดน้ำหนักและมีหุ่นสวย

ถ้าหากมีความเครียดหรือกังวลเกี่ยวกับเรื่องโรคมากเกินไปแอดขอแนะนำ ufa9999 เพื่อคลายเครียดได้แบบง่าย ๆ

Author: Namwarn